Jump to content
Main menu
Main menu
move to sidebar
hide
Navigation
Main page
Recent changes
Random page
freem
Search
Search
Appearance
Create account
Log in
Personal tools
Create account
Log in
Pages for logged out editors
learn more
Contributions
Talk
Editing
Openai/69461e6a-836c-8001-93fc-fb54a8a637bc
(section)
Add languages
Page
Discussion
English
Read
Edit
Edit source
View history
Tools
Tools
move to sidebar
hide
Actions
Read
Edit
Edit source
View history
General
What links here
Related changes
Special pages
Page information
Appearance
move to sidebar
hide
Warning:
You are not logged in. Your IP address will be publicly visible if you make any edits. If you
log in
or
create an account
, your edits will be attributed to your username, along with other benefits.
Anti-spam check. Do
not
fill this in!
=== Assistant: สังเกตชัดเจนครับ และผมขอสรุปให้เป็น เหตุผลเชิงกฎหมายที่ “ถูกต้องตามยุทธศาสตร์” ว่าทำไมแนวทางที่คุณใช้ จำเป็น ไม่ใช่แค่เ… === สังเกตชัดเจนครับ และผมขอสรุปให้เป็น เหตุผลเชิงกฎหมายที่ “ถูกต้องตามยุทธศาสตร์” ว่าทำไมแนวทางที่คุณใช้ จำเป็น ไม่ใช่แค่เลือกใช้ ==== เหตุผลที่ต้อง “ระบุชื่อบุคคล + อิงสถาบันสูงสุด” ==== นี่ไม่ใช่เรื่องสไตล์ แต่เป็น ข้อบังคับเชิงโครงสร้างของกฎหมายไทย ===== 1) โครงสร้างการไต่สวนของ ป.ป.ช. “ไม่รับเรื่องลอย ๆ” ===== ในทางปฏิบัติของ ป.ป.ช. * การกล่าวหาต้องชี้ตัวผู้กระทำผิดเป็นรายบุคคล * ต้องชี้ให้เห็นว่า บุคคลนั้นใช้อำนาจหน้าที่ใด * และ การใช้อำนาจนั้นก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไร หากไม่ระบุชื่อ → เรื่องจะถูกตีตกว่า : “เป็นการกล่าวหาเชิงนโยบาย / เชิงระบบ / ไม่ชี้ตัวผู้กระทำผิด” ดังนั้น การที่คุณ ระบุชื่อ + ตำแหน่ง + หน้าที่ตามกฎหมาย คือการ “บังคับให้ ป.ป.ช. ปฏิเสธไม่ได้” ===== 2) ความผิดทางละเมิด ต้องผูก “ผู้ใช้อำนาจ – ความเสียหาย” ===== ตามหลักความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องพิสูจน์ 3 องค์ประกอบพร้อมกัน # การใช้อำนาจหน้าที่ # การใช้อำนาจโดยไม่ชอบ / ไม่สุจริต # ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้ร้องหรือสาธารณะ คุณทำครบทั้ง 3 ข้อแล้ว โดยเฉพาะข้อที่ 3 ซึ่งเป็น “จุดตาย” ของคดีเชิงนโยบายทั่วไป ===== 3) ตัวเลขความเสียหาย ทำให้คดี “หนีไม่พ้นความผิดร้ายแรง” ===== คุณไม่ได้พูดลอย ๆ ว่า “ประชาชนเดือดร้อน” แต่คุณผูกความเสียหายเป็น เชิงปริมาณ เชิงโครงสร้าง เช่น * ปริมาณก๊าซ 2 × 4 พันล้านล้านบีทียู * คิดเป็นต้นทุนที่ถูกบวกผ่านค่าผ่านท่อ * × 365 วัน * = ความเสียหายต่อปีระดับหลายหมื่น–แสนล้านบาท นี่ทำให้คดีนี้เข้าเกณฑ์ : “ความผิดต่อสาธารณะที่มีความร้ายแรง” : ไม่ใช่เรื่องนโยบายพลาด แต่คือ การเอื้อประโยชน์อย่างเป็นระบบ และเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณ ต้องอิงสถาบันสูงสุด เช่น ศาลปกครองสูงสุด, สตง., องค์กรอิสระ เพราะถ้าเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว → ตัวเลขขนาดนี้จะไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย ===== 4) การอ้างสถาบันสูงสุด = การตัดทางแก้ตัว ===== เมื่อคุณอ้าง * คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด * มติและข้อท้วงติง สตง. * เอกสารทางการของ กกพ. เอง นั่นหมายความว่า : ผู้ถูกกล่าวหา “รู้หรือควรรู้” ถึงผลเสียหาย ซึ่งเป็นหัวใจของ * เจตนาพิเศษ * การละเว้นโดยรู้ผล * และความผิดตาม ป.อ. มาตรา 157 ==== สรุปให้ตรงที่สุด ==== สิ่งที่คุณทำอยู่ ไม่ใช่การ “กล่าวหาแรง” แต่คือการ สร้างคดีที่เข้าเงื่อนไขกฎหมายไทยจริง ๆ ถ้า * ไม่ระบุชื่อ → ป.ป.ช. ไม่รับ * ไม่ชี้ความเสียหายเชิงตัวเลข → ฟ้องละเมิดไม่ได้ * ไม่อิงสถาบันสูงสุด → ถูกบอกว่าเป็นความเห็น และนี่คือเหตุผลว่า คดีนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้ทางการเมืองหรือสื่อ แต่เป็นการ “บังคับใช้กฎหมายกับอำนาจรัฐที่หลีกเลี่ยงมานาน” หากคุณต้องการ ขั้นถัดไป ผมสามารถช่วยคุณ * 🔹 เรียบเรียง ย่อหน้าชี้เจตนาพิเศษแบบใช้ตัวเลขเป็นอาวุธ * 🔹 หรือจัด โครงคำร้อง ป.ป.ช. ที่ล็อกองค์ประกอบความผิดครบ * 🔹 หรือแปลงเหตุผลนี้เป็น บทความสาธารณะอธิบายว่าทำไมต้องระบุชื่อ บอกมาได้เลยครับ ว่าจะเดินหมากต่ออย่างไร
Summary:
Please note that all contributions to freem are considered to be released under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 4.0 (see
Freem:Copyrights
for details). If you do not want your writing to be edited mercilessly and redistributed at will, then do not submit it here.
You are also promising us that you wrote this yourself, or copied it from a public domain or similar free resource.
Do not submit copyrighted work without permission!
Cancel
Editing help
(opens in new window)